แบบฝึกหัดสะท้อนคิด
1. ระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการศึกษามีกี่ประเภทอะไรบ้าง
ตอบ แบ่งได้
2 ประเภท คือ
1. ระเบียบกฎหมายที่เป็นข้อกำหนดการปฏิบัติงาน
2. ระเบียบกฎหมายที่เป็นมาตรฐานในการปฏิบัติมิให้ล่วงละเมิดการกระทำผิด
2. การนำภาพจากสื่อสิ่งพิมพ์ อินเทอร์เน็ต มาประกอบการผลิตสื่อการสอน
ต้องทำอย่างไรจึงจะไม่ละเมิดลิขสิทธิ์
ตอบ - ข้อควรพิจารณาที่เป็นลิขสิทธิ์
-
หากภาพประกอบนั้นมีการถ่ายภาพมาโดยมีการสร้างสรรค์โดยใช้ความคิด
ความพยายามในการจัดแสง มุมมองภาพที่แปลก
หรือปรับแต่งภาพให้สื่อความหมายในรูปแบบต่าง ๆ
แสดงว่าภาพนั้นเป็นภาพที่มีลิขสิทธิ์
-
การนำภาพที่มีลิขสิทธิ์มาประกอบในการผลิตสื่อการสอน
ต้องมีการขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์
-
การนำภาพที่มีลิขสิทธิ์จากสื่ออินเทอร์เน็ต
หรือสื่ออื่น ๆ นั้นมาดัดแปลงตกแต่งใหม่
เพื่อไม่ให้ซ้ำกับของเดิมแสดงว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
3. การสำเนาโดยการถ่ายเอกสารจากหนังสือทั้งเล่ม
เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือไม่ เพราะเหตุใด
ตอบ เดิมพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.๒๕๒๑ กำหนดข้อยกเว้นเกี่ยวกับการถ่ายหนังสือเพื่อใช้เรียนไว้ในมาตรา ๓๐ ว่า
การกระทำแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ฯ
มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หากมีวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใด
ดังต่อไปนี้ (๑) วิจัยหรือศึกษา ซึ่งบทมาตรานี้ทำให้มีการกล่าวอ้างกันมาโดยเสมอว่า
ถ่ายหนังสือทั้งเล่มไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์เพราะเป็นการกระทำที่ต้องด้วย
ข้อยกเว้นที่ว่าเพื่อการศึกษา มิได้แสวงหากำไรแต่อย่างใด
แต่ต่อมาพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗
ได้มีการปรับปรุงข้อยกเว้นในการละเมิดลิขสิทธิ์เกี่ยวกับการถ่ายหนังสือ
เพื่อใช้เรียน โดยกำหนดไว้ในมาตรา ๓๒ ว่า
“มาตรา
๓๒ การกระทำแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นตามพระราชบัญญัตินี้
หากไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของ
ลิขสิทธิ์และไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์
เกินสมควร มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
สำหรับการละเมิดนั้นมีอยู่ 2 ประเด็น คือ
1. การทำซ้ำ หมายถึง
การคัดลอกไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ เลียนแบบ ทำสำเนา ทำแม่พิมพ์ บันทึกเสียง บันทึกภาพ
หรือบันทึกเสียงและภาพจากต้นฉบับ จากสำเนา หรือจากการโฆษณา ในส่วนอันเป็นสาระสำคัญ
ทั้งนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน สำหรับในส่วนที่เกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ให้หมายถึง คัดลอก หรือทำสำเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากสื่อบันทึกใด
ไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ ในส่วนอันเป็นสาระสำคัญ โดยไม่มีลักษณะเป็นการจัดทำงานขึ้นใหม่
ทั้งนี้ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน (พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522)
2. การดัดแปลง หมายถึง ทำซ้ำโดยเปลี่ยนรูปใหม่ ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม
หรือจำลองงานต้นฉบับในส่วนอันเป็นสาระสำคัญโดยไม่มีลักษณะเป็นการจัดทำงาน ขึ้นใหม่
ทั้งนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน (พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522)
4. สัญลักษณ์นี้หมายถึงอะไร
ตอบ
เมื่อนำผลงานไปเผยแพร่
ดัดแปลงควรอ้างอิงแหล่งที่มา
โดยไม่นำไปใช้เพื่อการค้าและยินยอมให้ผู้อื่นนำเนื้อหาไปใช้ต่อได้ด้วยสัญญาอนุญาตแบบเดียวกันนี้
สัญญาอนุญาตด้านลิขสิทธิ์สากลครีเอทีฟคอมมอนส์Creative Commons
แสดงที่มา (Attribution: by) ต้องแสดงที่มา
อ้างอิงถึง หรือยอมรับสิทธิของงานดังกล่าวตามรูปแบบที่ผู้สร้างสรรค์หรือผู้อนุญาตกำหนด
ไม่ใช้เพื่อการค้า (Non-commercial:
nc) ไม่ใช้งานนี้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า
อนุญาตแบบเดียวกัน (Share Alike: sa) ถ้าหากดัดแปลง
เปลี่ยนรูป หรือต่อเติมผลงานนี้คุณต้องใช้สัญญาอนุญาตแบบเดียวกัน
หรือแบบที่เหมือนกัน หรือที่เข้ากันได้กับสัญญาอนุญาตที่ใช้กับผลงานนี้เท่านั้น
5. ให้นิสิตหาตัวอย่างเว็บไซต์ที่มีการใช้สัญลักษณ์
สัญญาอนุญาตด้านลิขสิทธิ์สากลครีเอทีฟคอมมอนส์ มา 2 เว็บไซต์ พร้อมอธิบายความหมาย
ตอบ
สามารถใช้งานดังกล่าวได้โดยต้องแสดงที่มา
เว้นแต่ไม่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านการค้า และไม่ให้ดัดแปลงผลงานดังกล่าวด้วย
ให้เผยแพร่ดัดแปลงโดยต้องระบุที่มาแต่ห้ามใช้เพื่อการค้า
6. การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พ.ศ.2550 มีอะไรบ้าง จงอธิบาย
ตอบ มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกัน
การเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ
ถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา
๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน สี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๘ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา
๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย
ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี
หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ
ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี
หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา
๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่น
โดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข
ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท